วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567

NSM ฉลองครบรอบ 10 ปี กับโครงการ “Research show by Naturalist 2025”สร้างแรงบันดาลใจจากกิจกรรมพบนักวิจัยขั้วโลกและนักธรรมชาติวิทยาชั้นนำ

 NSM ฉลองครบรอบ 10 ปี กับโครงการ “Research show by Naturalist 2025”สร้างแรงบันดาลใจจากกิจกรรมพบนักวิจัยขั้วโลกและนักธรรมชาติวิทยาชั้นนำ


21 ธันวาคม 2567 / ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และนายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รองผู้อำนวยการ NSM พร้อมนักวิจัยขั้วโลกและนักธรรมชาติวิทยา ร่วมเปิดตัวโครงการ Research show by Naturalist 2025 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี จัดเต็มความพิเศษ 2 หัวข้อ กับ “Research Insight: ล้วงลึกงานวิจัยลับ” และ “Miracle of Polar: มหัศจรรย์แห่งขั้วโลก” ที่ชวนเจาะลึกเรื่องราวของนักธรรมชาติวิทยาและนักวิจัยขั้วโลกภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริฯตัวจริงแบบใกล้ชิด มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและประชาชนผ่านงานวิจัย นำไปสู่การจุดประกายให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาสนใจงานด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติต่อไป ณ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 


ผศ.ดร.รวิน กล่าวว่า “องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์นับเป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้พัฒนาเจริญก้าวหน้า โดยรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้สนับสนุนโครงการวิจัยต่าง ๆ มากมายให้แก่นักวิจัย ในการค้นคว้า ค้นหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อนำมาเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ เช่น ด้านสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ซึ่งองค์ความรู้เหล่านี้จะถูกนำมาถ่ายทอดไปสู่สาธารณะผ่านโครงการ “Research show by Naturalist 2025” ซึ่งในปี2568 ถือเป็นโอกาสพิเศษที่เราจะได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการจัดกิจกรรมนี้ นอกจากจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากนักธรรมชาติวิทยาของ อพวช. แล้ว ครั้งนี้เรายังได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ส่งนักวิจัยขั้วโลกมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนผ่านงานวิจัยขั้วโลก ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในการได้พบนักวิจัยขั้วโลกตัวจริง นับเป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีคุณค่าและได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และธรรมชาติวิทยาในหลากหลายมิติอีกด้วย พร้อมจะเป็นแรงผลักดันให้ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธรรมชาติวิทยาต่อไปในอนาคต


ในปีนี้โครงการ “Research Show by Naturalist 2025” ได้กำหนดจัดขึ้นทั้งหมด 2 หัวข้อ ได้แก่ หัวข้อ “Research Insight: ล้วงลึกงานวิจัยลับ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัยด้านธรรมชาติที่นักธรรมชาติวิทยาค้นพบ โดยมีการนำเสนอ 12 เรื่อง เช่น Echino & Friend, Fronds Insight, E-Sarn Frogs และ New Ginger, New Discovery ฯลฯ และอีกหนึ่งหัวข้อคือ “Miracle of Polar: มหัศจรรย์แห่งขั้วโลก” ซึ่งได้รับเกียรติจากนักวิจัยขั้วโลกภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริฯจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและประชาชนผ่านงานวิจัยขั้วโลก โดยมีการนำเสนอ 12 เรื่อง เช่น มหาสมุทรสุดขอบใต้ (Ocean at the South Edge), ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อสัตว์ขั้วโลก (Impacts of global warming on polar animals) และหินขั้วโลก: เครื่องบันทึกเหตุการณ์โลก (Polar Rocks: An Earth Recorder) ฯลฯ 

ศ.ดร.ไพรัช กล่าวว่า “สืบเนื่องจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินโครงการวิจัยขั้วโลก ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชดำริ ให้นักวิจัยไทยเข้าร่วมการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ขั้วโลกของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ โดยมี นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักวิชาการของไทย เดินทางไปศึกษาและทำวิจัยภายใต้โครงการฯ ในพื้นที่ทวีปแอนตาร์กติก จำนวน 20 พระองค์/คน และอาร์กติก 2 คน มูลนิธิฯ จึงเล็งเห็นถึงความร่วมมือกัน กับ อพวช. ในการสนับสนุนนักวิจัยชั้นนำระดับประเทศ ได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเยาวชนและประชาชนผ่านงานวิจัยที่น่าสนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่พิเศษในการครบ 10 ปีของการจัดกิจกรรม Research Show by Naturalist  และยังเป็นปีที่ครบรอบ 32 ปี ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปแอนตาร์กติกอีกด้วย 

นับเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เยาวชนฯ รับทราบเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปทำวิจัยที่ขั้วโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ได้รู้จักขั้วโลกในมุมมองที่ไม่เคยเห็นผ่านการนำเสนอของนักวิจัย และทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีต่อการศึกษาวิจัยในพื้นที่ขั้วโลกและได้นำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในเรื่องที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นำไปสู่การเผยแพร่ต่อสาธารณะเป็นวงกว้างต่อไป”


สำหรับกิจกรรมฯ ดังกล่าว ในหัวข้อ “Research Insight: ล้วงลึกงานวิจัยลับ” จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่ 1 ของเดือนในปี 2568 และ หัวข้อ Miracle of Polar: มหัศจรรย์แห่งขั้วโลก” จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนตลอดปี 2568 เช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มกิจกรรมครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 เรื่อง Echino & Friend นำเสนองานวิจัยในเชิงนิเวศ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กลุ่มดาวทะเล เม่นทะเล ปลิงทะเล กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน และเกิดการได้ประโยชน์การอยู่ร่วมกัน โดย ดร.อารมณ์ มุจรินทร์ และในวันเสาร์ที่  18 มกราคม 2568 Impacts of global warming on polar animals ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อสัตว์ขั้วโลก โดย ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ ณ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. ต.คลองห้า อ.คลองหลวง   จ.ปทุมธานี สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook: พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) 

”พิพัฒน์“ อบรม AI บุคลากรรัฐ เปลี่ยนกระทรวงสู่ยุคAI บริการหางาน พัฒนาฝีมือ แจ้งข้อร้องเรียน รับสิทธิประกันสังคม ให้สะดวก รวดเร็วขึ้น

 ”พิพัฒน์“  อบรม AI บุคลากรรัฐ เปลี่ยนกระทรวงสู่ยุคAI บริการหางาน พัฒนาฝีมือ แจ้งข้อร้องเรียน รับสิทธิประกันสังคม ให้สะดวก รวดเร็วขึ้น


วันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในงานการประชาสัมพันธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์และการนำไปใช้สำหรับบุคลากรภาครัฐ (Kick off Artificial Intelligence Literacy for Government officer) รวมทั้งกล่าวปาฐกถา หัวข้อ “ปรับเปลี่ยนกระทรวงแรงงานสู่ยุค AI Transformation” เพื่อปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับ AI สร้างทักษะการใช้งานเครื่องมือ AI และส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI ของบุคลากรกระทรวงแรงงาน โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ และ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ร่วมพิธีเปิด ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ธ.ค. 67) กระทรวงแรงงานกำลังเผชิญกับ ความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ปัจจุบันเข้ามามีบทบาทในการปฏิบัติงานของบุคลากรเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องมีการปรับตัวและพัฒนาทักษะบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตามนโยบายของกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ก้าวทันต่อเทคโนโลยี




ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการทำงานของภาครัฐ และพัฒนาทักษะบุคลากรให้สามารถนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์



(AI) ไปใช้ในการทำงานเพื่อเตรียมก้าวสู่องค์กร

ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวก ช่วยเหลือพี่น้องแรงงาน และประชาชนได้อย่างรวดเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ  เช่น กรมการจัดหางาน Matching เข้าสู่ตำแหน่งงานได้ง่ายขึ้น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถทำหลักสูตรได้แม่นยำตามความต้องการของผู้ประกอบการ กรมสวัสดิการฯ ทำให้กระบวนการคุ้มครองแรงงาน จัดการข้อร้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกันสังคม เข้าถึงสิทธิผู้ประกันตนได้อย่างรวดเร็ว สสปท. ช่วยเพิ่มความปลอดภัย สามารถชี้จุดเสี่ยงสารอันตรายได้ตรงจุด แม่นยำ เป็นต้น

ด้านนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้มีการเสวนาในหัวข้อ  “AI Transformation in Action กับวิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรภาครัฐ” โดยวิทยากรพิเศษด้าน Digital Transformation และบรรยายในหัวข้อ “Magic of AI  การนำ AI ไปใช้ในหน่วยงานภาครัฐ"  จากนายซันนี่ จาวลา Youtuber สายไอที ช่อง Sunnylogy  นอกจากนี้ ยังมีบูธนิทรรศการดิจิทัลที่น่าสนใจจากพันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) บริษัท บิทคับ แคปปิดอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bikub Acaderry)  สถาบันพัฒนากำลังพลดิจิทัล มูลนิธิเพื่อการพัฒนาดิจิทัล สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย ICDL THAILAND และสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย








และหลังจากนี้กรมฯ ยังมีแผนการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 4 รุ่น รวมทั้งสิ้น 200 คน โดย รุ่นที่ 1 เดือนมกราคม รุ่นที่ 2 เดือนมีนาคม  รุ่นที่ 3 เดือนพฤษภาคม รุ่นที่ 4 เดือนมิถุนายน 2568  ผู้ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับความรู้ใหม่ ๆด้าน AI ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนและบริหารจัดการงานในภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานปล่อยขบวนรถอำนวยความปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2568 ของกรมทางหลวงชนบท “เดินทาง สะดวก ปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท ใส่ใจทุกเส้นทาง”

 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานปล่อยขบวนรถอำนวยความปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2568 ของกรมทางหลวงชนบท “เดินทาง สะดวก ปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท ใส่ใจทุกเส้นทาง”



 


วันนี้ (22 ธ.ค. 67) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการปล่อยขบวนรถอำนวยความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจในการเดินทางให้กับประชาชนตลอดช่วงเทศกาล ภายใต้หัวข้อ “เดินทาง สะดวก ปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท ใส่ใจทุกเส้นทาง” โดยมีนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท และสื่อมวลชน 

เข้าร่วมงาน ณ บริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย มห.3019 อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

 





นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยได้กำหนดเป้าหมายให้ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” ซึ่ง ทช. ได้น้อมรับนโยบายดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติ โดยได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน อาทิ การจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัย หน่วยบริการประชาชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จัดเจ้าหน้าที่ประจำการสายด่วน ทช. 1146 ระบบ CCTV ระบบวิทยุสื่อสาร และระบบ Conference ตลอดจนจัดชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสายทาง ติดตั้งสัญญาณไฟวับวาบบริเวณจุดเสี่ยงอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง








โอกาสนี้ กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ร่วมส่งทุกท่านเดินทางกลับบ้านปลอดภัยถึงบ้านอย่างมีความสุข ควรตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัยของท่านและใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ประมาท เมาไม่ขับคาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งก่อนใช้รถ ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามเส้นทางเลี่ยงของกรมทางหลวงชนบทได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ส่งมอบ “แอปเปิลอาโอโมริ” เป็นของขวัญปีใหม่ต้อนรับ 2025“แพทตี้ อังศุมาลิน” คอนเฟิร์มอร่อยที่สุดในโลก

 ส่งมอบ “แอปเปิลอาโอโมริ” เป็นของขวัญปีใหม่ต้อนรับ 2025“แพทตี้ อังศุมาลิน” คอนเฟิร์มอร่อยที่สุดในโลก



It’s the time of the year : Aomori Apple Season is starting” ฤดูกาลแอปเปิลอาโอโมริจากประเทศญี่ปุ่นของปีนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยสภาความร่วมมือแอปเปิลจังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเพื่อแนะนำ “แอปเปิลอาโอโมริ” 8 สายพันธุ์สำคัญ ได้แก่ ฟูจิ (Fuji), ซันฟูจิ (San Fuji), โอริน (Orin), คินเซ (Kinsei), เซไก อิจิ (Sekai Ichi), ชินะโนะโกลด์ (Shinano Gold), มุซึ (Mutsu) และ เมะเก็ตซี (Meigetsu) โดยในงานได้รับเกียรติจากนักแสดงสาว “แพทตี้- อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” มาร่วมงานพร้อมให้ความมั่นใจว่าแอปเปิลอาโอโมริจากประเทศญี่ปุ่นอร่อย หอม หวาน คุณภาพสูงระดับสากล เหมาะสำหรับเป็นของขวัญและของฝากในทุกเทศกาล ณ The Westin Grande Sukhumvit, Bangkok 


บรรยากาศภายในงานตกแต่งเสมือนอยู่ในสวนแอปเปิล พร้อมด้วยการแสดงนิทรรศกาลแอปเปิลอาโอโมริสายพันธุ์ต่าง ๆ และยังได้มีการโชว์การปอกแอปเปิลในรูปแบบสตาร์คัท (STAR CUT) ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สัมผัสถึงรสชาติของแอปเปิลอาโอโมริ ที่พร้อมเสิร์ฟภายในปี 2025 นี้ ทั้งยังได้รับเกียรติจากตัวแทนสภาความร่วมมือแอปเปิลจังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ คุณทันได คินอิจ ประธานสมาคมผู้ส่งออกแอปเปิ้ลจังหวัดอาโอโมริ และประธานสมาคมผู้ค้าผลไม้จังหวัดอาโอโมริ, คุณคุโด ยูกิฮิสะ รองประธานสมาคมผู้ส่งออกแอปเปิ้ลจังหวัดอาโอโมริ, คุณซาซากิ ทาคาฮิโกะ ผู้จัดการทั่วไป, คุณซาซาโมริ โทชิมิตสึ รองหัวหน้าสำนักงานสหกรณ์การเกษตรแห่งชาติอาโอโมริ และคุณซาซากิ ชิมาสะ มิสริงโงะ ผู้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์แอปเปิ้ลจากจังหวัดอาโอโมริทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในหลายประเทศในเอเชีย เพื่อขยายการบริโภค เข้าร่วมงานอีกด้วย

มร.มิยาชิตะ โซอิชิโระ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาโอโมริ เผยว่า “จังหวัดอาโอโมริ มีความภาคภูมิใจในการเปิดฤดูกาลแอปเปิลอาโอโมริอีกครั้งในประเทศไทย ที่ผ่านแอปเปิลอาโอโมริยังคงได้รับความนิยม และกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอดทั้งกับคนไทย และทั่วโลกว่าเป็น “แอปเปิลอร่อยที่สุดในโลก” ด้วยประวัติศาตร์ของแอปเปิลอาโอโมริที่มีอยู่คู่กับจังหวัดอาโอโมริมายาวนานกว่า 150 ปี และเรายังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแอปเปิลรายใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเทคนิคและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนแบบลูกต่อลูก และการใช้เทคโนโลยีการเก็บรักษาและการส่งออกที่มีคุณภาพสูง จึงทำให้แอปเปิลอาโอโมริ มี สีสันสวยงาม หวาน กรอบ และอร่อย ให้คนรักแอปเปิ้ลได้ลิ้มลองตลอดทั้งปี และใกล้เทศกาลปีใหม่แล้วหากใครที่กำลังมองหาของขวัญหรือของฝากแอปเปิลอาโอโมริทุกสายพันธุ์ถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่จังหวัดอาโอโมริได้เตรียมส่งมอบให้กับทุกคน”



มร.คากาวะ มาซาโตะ ประธานสมาคมความร่วมมือแอปเปิลจังหวัดอาโอโมริ ในฐานะผู้จัดงาน กล่าวต่อว่า “ทุกปีระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ แอปเปิ้ลจากจังหวัดอาโอโมริจะมีการนำเข้ามาหลายพันธุ์ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละพันธุ์ สำหรับปี 2564 - 2565 นี้เราได้นำเข้าแอปเปิลหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป โดยในงานวันนี้ได้นำ 8 สายพันธุ์สำคัญมาแนะนำ และให้ได้ลองชิม ได้แก่

แอปเปิลฟูจิ (Fuji Apple) เป็นราชาแอปเปิลที่ครองใจคนทั่วโลก สีของผลแอปเปิลเป็นสีแดงสด เนื่องจากมีการปลูกด้วยวิธีคลุมถุง เรียกกันว่า “ยูไทฟูจิ” มีเนื้อสัมผัสแบบเนื้อทราย แต่กรอบ ชุ่มฉ่ำ และมีสมดุลของรสหวานและเปรี้ยวที่ยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกหวานสดชื่นกว่าซันฟูจิ อีกทั้งความสามารถในการเก็บรักษาได้นาน หากคุณกำลังมองหาแอปเปิลที่ทั้งสวยและอร่อย ดูพรีเมียม แอปเปิลฟูจิคือคำตอบที่ดีที่สุด

แอปเปิลซันฟูจิ (Sun Fuji Apple) เป็นแอปเปิลสายพันธุ์เดียวกับฟูจิ โดดเด่นในด้านกระบวนการปลูกในสภาพที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่โดยไม่มีการคลุมป้องกันแสงแดด จึงทำให้คงความกรอบไว้ได้มาก และมีรสชาติหวานฉ่ำ นอกจากนี้ยังเป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณการผลิตสูงที่สุดและเป็นตัวแทนของสายพันธุ์ที่วางจำหน่ายได้ยาวนาน แม้จะเป็นสายพันธุ์แบบมาตรฐาน แต่ได้รับการยอมรับในเรื่องรสชาติ คุณภาพ และความกรอบ เป็นอีกสายพันธุ์ที่อยากแนะนำให้ลองชิม

ด้านแอปเปิลสีทองที่มีในจังหวัดอาโอโมริ ที่แทบไม่เคยเห็นจากประเทศอื่น ได้แก่ แอปเปิลโอริน (Orin Apple) เปลือกของโอรินมีสีเหลืองทองสดใส บางครั้งอาจมีริ้วเป็นแนวตั้ง ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ แอปเปิลโอรินนั้น นอกจากความหวานฉ่ำแล้ว ยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และความสวยงามของสีทอง หากคุณกำลังมองหาแอปเปิลที่แตกต่างจากสายพันธุ์ทั่วไป แอปเปิลโอรินคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด

ด้าน แอปเปิลพันธุ์ "คินเซ" (Kinsei) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "ดาวสีทอง" (Golden Star) ซึ่งสะท้อนถึงสีทองสวยงามของผลแอปเปิลชนิดนี้ ผิวผลจะมีสีเขียวอมเหลือง เนื้อหวานฉ่ำน้ำ รสชาติเข้มข้นและมีความหวาน เลือกสีสวยและผลใหญ่กว่าแอปเปิลทั่วไป เหมาะแก่การซื้อเป็นของขวัญอย่างยิ่ง แอปเปิลชนิดนี้อาจหาซื้อได้ยากนอกประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากการส่งออกมีจำกัด จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

แอปเปิลชินะโนะโกลด์ (Shinano gold Apple) เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจำหน่ายเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปีใหม่ จุดเด่นที่สุดของสายพันธุ์นี้คือความหวานที่สูงและเนื้อผลไม้ที่แน่น พร้อมทั้งน้ำผลไม้ที่อุดมไปด้วยความฉ่ำ ขอแนะนำให้ทานสดเพื่อสัมผัสถึงความกรุบกรอบของเนื้อและความหวานอย่างเต็มที่

แอปเปิล เซไก อิจิ (Sekai Ichi) เป็นสายพันธุ์แอปเปิ้ลที่รู้จักกันดีในฐานะแอปเปิลขนาดใหญ่ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยประมาณ 10 เซนติเมตร และบางลูกอาจมีน้ำหนักถึง 1 กิโลกรัม เปลือกมีสีแดงเข้มและลายเส้นสีแดงสดใส ส่วนเนื้อแอปเปิลมีความแน่น รสชาติไม่หวานมากแต่สดชื่นและอร่อย

แอปเปิลมุซึ (Mutsu Apple) ได้รับการพัฒนาโดยสถาบันวิจัยแอปเปิลในจังหวัดอาโอะโมริ และได้รับการจดทะเบียนสายพันธุ์ในปี 1949 (โชวะ 24) ลักษณะการเปลี่ยนสีของผลน่าสนใจ เมื่อไม่ได้ครอบถุงผลจะเป็นสีเหลือง แต่ถ้าครอบถุงจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ผลมีขนาดใหญ่ เนื้อกรอบและมีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาติหวานพอดีไม่หวานเกินไปและมีความเปรี้ยวเล็กน้อย ทำให้มีความสมดุล เหมาะสำหรับการนำไปเป็นของขวัญ

แอปเปิลเมะเก็ตซี (Magetsu Apple) เป็นแอปเปิลที่ได้รับแสงแดดจะเป็นสีแดงอ่อน มีรสชาติหวานจัดและมีน้ำผึ้งมากมาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้น้อยในแอปเปิลสีเหลืองอย่างไรก็ตาม ระยะเวลาจำหน่ายค่อนข้างสั้น และจะสิ้นสุดในปีนี้ ทำให้เป็นความอร่อยระดับพรีเมียมที่สามารถเพลิดเพลินได้ในช่วงเวลาจำกัด แต่รสชาติจะลดลงหลังปีใหม่ แนะนำให้ลิ้มลองก่อนสิ้นปี

แอปเปิลทั้ง 8 สายพันธุ์นี้มีลักษณะและเสน่ห์ที่แตกต่างกัน แต่ละสายพันธุ์ได้รับการคัดเลือกและดูแลอย่างพิถีพิถันโดยเกษตรกร โดยมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โพแทสเซียมและเส้นใยอาหาร นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอลที่ช่วยในการบำรุง

ผิวพรรณอีกด้วย แอปเปิลจากอาโอโมริเป็นแอปเปิลที่ปลอดสารเคลือบ (No-wax) มั่นใจในความปลอดภัย สารโพลีฟีนอลและสารอื่นๆ จะมีอยู่มากในส่วนของเนื้อแอปเปิ้ลที่ใกล้เปลือก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ทานแอปเปิลจากอาโอโมริแบบทั้งเปลือก สามารถทานแอปเปิลอาโอโมริโดยการหั่นแบบ "Star Cut" ซึ่งเป็นการตัดที่เอาก้านและเมล็ดออก เท่านี้ก็จะสามารถเพลิดเพลินกับแอปเปิลทั้งลูกได้อย่างคุ้มค่าและยังได้สารอาหารครบถ้วน

"สำหรับของขวัญช่วงปีใหม่ ทำไมไม่ลองเลือกแอปเปิลจากอาโอโมริให้เป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษดูล่ะครับ? เป็นของขวัญที่แสดงถึงความห่วงใยและความจริงใจที่ดีที่สุด" นายมาซะโตะ คากาวะกล่าวปิดท้าย

แอปเปิลอาโอโมริ เริ่มวางจำหน่ายต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2025 นี้แล้ว! สามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่ว เช่น Central Food Hall, Tops Supermarket, Gourmet Market, Foodland Supermarket, MAXVALU, LOTUS และอื่น ๆ โดยบางสายพันธุ์จะจำหน่ายไปจนถึงเดือนเมษายน 2025 อย่าพลาดโอกาสในการลิ้มลองความอร่อยนี้


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดจำหน่ายแอปเปิลอาโอโมริ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงก์ด้านล่าง

วิดีโอขั้นตอนการปลูกและเก็บเกี่ยว https://www.youtube.com/watch?v=SKpL4dG5rOg


NSM ฉลองครบรอบ 10 ปี กับโครงการ “Research show by Naturalist 2025”สร้างแรงบันดาลใจจากกิจกรรมพบนักวิจัยขั้วโลกและนักธรรมชาติวิทยาชั้นนำ

  NSM ฉลองครบรอบ 10 ปี กับโครงการ “Research show by Naturalist 2025”สร้างแรงบันดาลใจจากกิจกรรมพบนักวิจัยขั้วโลกและนักธรรมชาติวิทยาชั้นนำ 21 ...