ฮับวิจัยถอดรหัสท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารไทย-จีน จับมือม.ดังหวังสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญสองแผ่นดิน
ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารเดินหน้าสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญไทย-จีน หวังถอดรหัสการท่องเที่ยวเชิงอาหารจีน-ไทย สายใยแห่งวัฒนธรรมของเอเชีย พร้อมยกศักยภาพยกระดับด้านวิชาการและผลักดันการท่องเที่ยว
รศ. ดร. พรรณี สวนเพลง หัวหน้าโครงการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้ร่วมกับสมาคมนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จัดงานการประชุมสัมมนาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ครั้งที่ 1 ณ สถานเอกอัครราชฑูตไทยณกรุงปักกิ่ง ซึ่งคณะวิจัยได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในประเทศจีน เพื่อถอดรหัสการท่องเที่ยวเชิงอาหารจีน-ไทย สายใยแห่งวัฒนธรรมของเอเชีย
ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารในปักกิ่งประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย 1. ความหลากหลายของอาหารในกรุงปักกิ่ง เช่น เป็ดปักกิ่ง เส้นหมี่ และอาหารสตรีทฟู้ด ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าทดลองและสัมผัส 2. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนานของกรุงปักกิ่ง อาคารโบราณและสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สามารถเพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยวได้ 3. ประสบการณ์ในการกิน นักท่องเที่ยวมักสัมผัสกับบรรยากาศการกินที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การนั่งกินด้านข้างถนนในขณะที่นักดนตรีหรือศิลปินท้องถิ่นแสดง
ตัวอย่างของถนนคนเดินด้านอาหารในปักกิ่ง ได้แก่ 1. ถนนหวังฝูจิ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงปักกิ่งเพราะเต็มไปด้วยร้านค้าและแผงขายอาหารสตรีทฟู้ดตั้งแต่ของว่างท้องถิ่นไปจนถึงอาหารนานาชาติที่จัดเตรียมอาหารสดทั้งปิ้งย่าง ทอด และอื่น ๆ 2. ถนนหนานโหลวกู่เซี่ยง เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งช้อปปิ้งและอาหารตลอดสองข้างทาง นักท่องเที่ยวสามารถพบกับอาหารท้องถิ่น เช่น เส้นหมี่จ้าวเหม่ยและของว่างอื่น ๆ ที่มีความหลากหลาย 3. ถนนเฉียนเหมิน มีร้านอาหารดั้งเดิมและร้านขนมที่มีชื่อเสียง เช่น ร้านเป็ดปักกิ่ง และยังเป็นแหล่งซื้อของที่ระลึกอีกด้วย
สำหรับการเชื่อมโยงระหว่างกรุงปักกิ่งและกรุงเทพมหานคร มีทั้งการนำเสนออาหารเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครผ่านการทำอาหารสตรีทฟู้ดที่มีเอกลักษณ์ อันเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ทำให้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละชาติ เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนจีนและคนไทย รวมทั้งตลาดอาหารสตรีทฟู้ดที่มีความเข้มแข็งและเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมการกินที่ไม่เหมือนใคร เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถหาของอร่อยและประสบการณ์ที่น่าจดจำ
นอกจากนี้คณะวิจัยยังสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยกวางตุ้ง มหาวิทยาลัยกวางสี สถาบันการท่องเที่ยวนคร มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยเสฉวน เมืองเฉิงตู โดยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านการศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหาร และนวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร รวมถึงการแลกเปลี่ยนอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร
งานดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน บรรยายเรื่อง “ความสำคัญของจีนในโลกยุคปัจจุบันและความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน” ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดของประเทศจีนเข้าสู่ยุค “Disruption” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าทางด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) อันดับหนึ่งของโลก และนายอาทินันท์ อินทรพิมพ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ประจำกรุงปักกิ่ง บรรยายเรื่อง “สถานการณ์การค้าด้านการเกษตรระหว่างไทย-จีน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับอาหารและสินค้าเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารไทยที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากชาวจีนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบสายตะลุยกินอาหารในท้องถิ่น พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนที่เปลี่ยนไปนิยม “อาหารปลอดภัยและคุณภาพสูง” ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่คุณค่าของการท่องเที่ยวอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น