“นภินทร” ยกทัพ พาณิชย์-สสว.ททท. ขึ้นดอยช้าง ช่วย MSME เร่งสร้างแบรนด์สินค้าชุมชน ดึงจุดขายจดสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มมูลค่า ผลักดันส่งออก
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ณ หมู่บ้านดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมภาครัฐพบกับผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงราย ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พาณิชย์จังหวัดเชียงราย หอการค้าจังหวัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องของจังหวัดเชียงราย
นายนภินทร ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “ วันนี้ผมได้นำทีมกระทรวงพาณิชย์รวมทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ชุมชน มาร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการเชียงราย ภายใต้โครงการพัฒนาต่อยอดสินค้าชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมให้ได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างแต้มต่อทางการแข่งขันเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าชุมชนเชียงราย จากการพูดคุยได้สรุปทั้งส่วนที่ผู้ประกอบการขอรับการสนับสนุน และส่วนที่ภาครัฐเองเตรียมพร้อมจะช่วยเหลือและต่อยอด โดยจะมีการพัฒนาผู้ประกอบการพร้อมกับการพัฒนาสินค้าชุมชน ซึ่งจะเห็นว่าผู้ประกอบการที่มาในวันนี้ มีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กาแฟที่มีรางวัลจากการประกวดในต่างประเทศ เป็นใบการันตีว่าเป็นกาแฟที่ดีที่สุดระดับโลก ชา ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างสับปะรดภูแล และเครื่องเงิน ซึ่งผมในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ขอการันตีว่าผลิตภัณฑ์ของชุมชนดอยช้างและในจังหวัดเชียงรายมีชื่อเสียง โดยเฉพาะชาและกาแฟของดอยช้าง ที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว แต่ประเด็นต่อมา เราจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้อีกโดยการนำกรรมวิธีการผลิต รวมถึงแบรนด์ สัญลักษณ์ และ Packaging ให้ได้รับการคุ้มครองทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งภายใต้โครงการของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่มาลงพื้นที่ในวันนี้ก็จะเชิญผู้ประกอบการมาเป็นเครือข่ายในการต่อยอดสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา และสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในด้านการส่งออก กระทรวงพาณิชย์เองจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายการตลาดที่จะหาตลาดต่างประเทศโดยใช้เครือข่ายของทูตพาณิชย์ที่มีอยู่ทั่วโลกเพื่อหาตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของดอยช้าง“
นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ”ในส่วนของสินค้าชุมชน เป็นสินค้าและบริการในชุมชนท้องถิ่นดอยช้างของไทย มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เมื่อสินค้ามีความพร้อมแล้วเราก็ต้องมาดูตลาดที่รองรับ ปัจจุบันช่องทางการตลาดเป็นช่องทางทางออนไลน์ถึง 70% เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวเพื่อใช้ช่องทางการออนไลน์ให้มากขึ้นโดยกระทรวงเองมีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้ใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขายสินค้าเพื่อให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น“
การส่งเสริมการค้าออนไลน์ ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็มีการจัดกิจกรรมดำเนินการตั้งแต่พื้นฐานเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รู้จักการค้าออนไลน์ รวมถึงให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาตนเองด้านการค้าออนไลน์ด้วยการอบรมทักษะการขายออนไลน์ การพัฒนาเรื่องของสินค้าได้มีการร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้มีการสร้างแบรนด์ ได้รับการยอมรับและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคในตลาดสินค้าออนไลน์ได้ในขณะเดียวกันชุมชนก็ต้องมีการพัฒนาตลาดชุมชน ปกติขายได้ไม่เยอะก็ต้องพึ่งช่องทางผ่านออนไลน์ก็มีการพัฒนาชุมชนด้านการค้าออนไลน์ได้แก่ Digital Village ซึ่งปัจจุบันเรามีถึง 96 ชุมชนทั่วประเทศในจังหวัดเชียงราย และจะขยายให้มากขึ้น
“ท้ายนี้ ผมขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวเยี่ยมชมวัฒนธรรมของภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเพิ่งจะผ่านวิกฤติอุทกภัยมาแต่ในขณะนี้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว สำหรับ ใครที่มองหาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อมาสัมผัสอากาศหนาวในช่วงปลายปีของทางภาคเหนือ ผมขอฝากเชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมของชนเผ่าชาวต่างๆให้ท่านได้สัมผัสจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวในจังหวัดเชียงรายและอย่าลืมอุดหนุนสินค้าชุมชนเพื่อเป็นของที่ระลึกของฝากติดไม้ติดมือด้วยครับ” นายนภินทร กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น