กรมทะเล จับมือ จ.จันทบุรี จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน - ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันที่ 27 ธันวาคม 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี จัดโครงการรวมใจภักดิ์ อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายมนต์สิทธิ์ ไพศาสธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน ในการนี้ นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี กล่าวต้อนรับ นายชาตรี มากนวล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการสวนพฤกษาศาสตร์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ พร้อมกันนี้ นายทนุวงศ์ แสงเทียน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน พร้อมด้วยนางสาวอาทิตา จุ้ยจู่เอี้ยม เลขานุการกรม นายปรมินทร์ แสนทรงศักดิ์ ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง และนายสุเทพ เจือละออ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ตลอดจนผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมทะเล รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และนักเรียนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมกิจกรรม ณ สวนพฤกษาศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 จังหวัดจันทบุรี บ้านเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า “...ป่าชายเลนมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย แต่ปัจจุบันป่าชายเลนของประเทศไทยเรากำลังถูกบุกรุก และถูกทำลายลงไปโดยผู้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน จึงควรหาทางป้องกันอนุรักษ์ และขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นโกงกาง เป็นไม้ป่าชายเลนที่แปลกและขยายพันธุ์ได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยระบบน้ำขึ้นน้ำลงในการเติบโตด้วย จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ กรมป่าไม้ กรมประมง กรมชลประทาน และกรมอุทกศาสตร์ร่วมกันหาพื้นที่เหมาะสมในการทดลองขยายพันธุ์โกงกาง และปลูกสร้างป่าชายเลนกันต่อไป...” โดยข้อความดังกล่าว คือ พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 10 พฤษภาคม 2534 ที่ทรงห่วงใยในทรัพยากรป่าชายเลน อันเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญและประโยชน์อย่างยิ่งในหลายด้าน ได้แก่ ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ป่าชายเลนยังทำหน้าที่เสมือนเขื่อนป้องกันคลื่นลมจากทะเล เป็นแนวกำบังภัยธรรมชาติ ช่วยป้องกันการพังทลายชายฝั่งจากคลื่นลม และทำหน้าที่รักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งป้องกันความรุนแรงของพายุและสามารถซ่อมแซมตนเองได้เมื่อได้รับความเสียหายจากพายุ งานศึกษาจำนวนมากสนับสนุนความสำคัญของป่าชายเลนในการเป็นแนวป้องกันชายฝั่งทะเลตามธรรมชาติ ด้วยความซับซ้อนและหนาแน่นของระบบรากและลำต้น คลื่นลมหรือคลื่นพายุต่างๆ ที่พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่ป่าชายเลนจะถูกสลายพลังงานลงเนื่องจากแรงลากที่รากและลำต้น ในขณะที่กิ่ง ก้าน และใบไม้ของต้นไม้ป่าชายเลนเป็นแนวกำลังลมที่เป็นกำลังเสริมของคลื่นน้ำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันป่าชายเลนยังทำหน้าที่ป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ รากของต้นไม้ในป่าชายเลนที่งอกออกมาเหนือพื้นดิน เช่น รากหายใจ และรากค้ำยันจะทำหน้าที่คล้ายตะแกรงตามธรรมชาติคอยกลั่นกรองสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่มากับกระแสน้ำ ดักกรองสารปฏิกูลและสารมลพิษต่างๆ จากบนโลกไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลน ได้ตระหนักถึงคุณค่าของระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมมือกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดทำโครงการพลิกฟื้นคืนป่าชายเลนสู่ธรรมชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสมหามงคลเถลิงถวัลราชสมบัติครบ 70 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ท้องที่ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ 707 ไร่ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศในขณะนั้น เสด็จราชดำเนินไปเป็นประธานเปิดโครงการฯ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ณ บ้านเสม็ดงาม หมู่ที่ 10 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี เป็นการเริ่มต้นโครงการฯ โดยประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จากโครงการดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดการฟื้นฟูป่าชายเลนที่เคยถูกบุกรุก ครอบครอง ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแหล่งอาศัย แหล่งวางไข่ และแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำในป่าชายเลนอันเป็นแหล่งอาหารและแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญให้แก่ชุมชนชายฝั่งอีกด้วย
ในโอกาสนี้ เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กรมทะเล จึงกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ “โครงการรวมใจภักดิ์ อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและป่าชายเลน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้ดำเนินการจัดกิจกรรม ครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ณ พื้นที่ป่าชายเลนโครงการป่าในเมืองจังหวัดระยอง และครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคม 2567 ดำเนินการปลูกป่าชายเลน เก็บขยะชายหาด ปลูกปะการัง ปล่อยสัตว์ทะเล จังหวัดชายฝั่งทะเล 10 แห่งทั่วประเทศ สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 กำหนดดำเนินการปลูกไม้ป่าชายเลน จำนวน 720 ต้น ครอบคลุมพื้นที่ 1 ไร่ และปล่อยพันธ์สัตว์น้ำจำนวน 72000 ตัว ณ สวนพฤกษาศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีป่าชายเลนผืนใหญ่และมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี อีกทั้งมีคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อ วิถีการดำรงชีวิต เศรษฐกิจและสังคมของพี่น้องจังหวัดจันทบุรี โดยในอนาคตสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 แห่งนี้ จะเป็นแหล่งศึกษาวิจัยให้ความรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับจังหวัดจันทบุรีอย่างยั่งยืนสืบไป “ดร.ปิ่นสักก์ อธิบดีกรมทะเล กล่าวทิ้งท้าย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น