กรมทะเล เผยข่าวดีรับปีใหม่ แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่รังแรก!! ของฤดูกาล ปี 67-68
วันที่ 3 มกราคม 2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยหลังได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สทช.6) ว่าได้รับแจ้งจาก นายธนันชัย เลขาวุธ ราษฎรท้องที่ ต.เกาะพระทอง พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล บริเวณชายหาดทุ่งดาบ ม.1 ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยให้ประสานการปฏิบัติงานกับนักวิชาการกลุ่มสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) ซึ่งจากการตรวจสอบพบร่องรอยเต่าทะเลบริเวณชายหาดแต่มีสภาพเลือนไม่สมบูรณ์ พื้นที่บริเวณหลุมมีร่องรอยการขุดหาไข่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดความกว้างรอยพายคู่หน้า มีขนาด 165 ซม. ขนาดอกกว้าง 78 ซม. และขุดหาไข่จนพบไข่เต่าที่ระดับความลึก 65 ซม. ตรวจวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไข่ได้ 5.52 ซม. ตำแหน่งวางไข่ พิกัด UTM ระบบ WGS 84 417382 E 998689 N ซึ่งอยู่ในแนวน้ำทะเลท่วมถึงและมีต้นไม้อยู่ใกล้ซึ่งจะส่งผลต่อหลุมฟักไข่ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลรถยนต์เข้าไม่ถึงซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเฝ้าระวังดูแลและการจัดเก็บข้อมูลด้านวิชาการ จึงประสานปรึกษากับนักวิชาการกลุ่มสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ ศวอบ. และมีความเห็นร่วมกันให้ย้ายไข่เต่านำไปฟักและเฝ้าระวังดูแล บริเวณหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต่ามะเฟืองเคยขึ้นมาวางไข่ เจ้าหน้าที่จึงทำการย้ายไข่พร้อมตรวจนับไข่ทั้งหมดได้รวมจำนวน 127 ฟอง ไข่ดี 82 ฟอง ไข่ลม 44 ฟอง และพบไข่แตกในหลุม 1 ฟอง จากนั้นจึงนำไข่ดีมาขุดหลุมฟักบริเวณหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จัดทำคอกชั่วคราวเพื่อป้องกันภัยคุกคามตามธรรมชาติ ซึ่ง สทช.6 จะได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังดูแลหลุมฟักไข่เต่าจนกว่าลูกเต่าจะฟักและลงสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 55-60 วัน พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ที่จะเข้ามาเยี่ยมชมหลุมฟักไข่เต่า การขึ้นวางไข่ของแม่เต่ามะเฟืองครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 ซึ่ง ช่วงฤดูเต่าวางไข่ในอันดามันตั้งแต่เดือน ต.ค.-ก.พ. เป็นการสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในบ้านเรา จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมด้วยช่วยกันดูแลทะเล ชายหาด และชายฝั่งของไทย อันเป็นบ้านของสัตว์ทะเลเหล่านี้ ไม่ให้สูญพันธุ์ไป และหากพบเห็นสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น หรือมีเหตุฉุกเฉินให้รีบแจ้งกรม ทช. หรือสายด่วน 1362 หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นเพื่อประสานหน่วยงานมาที่กรม ทช. ในแต่ละพื้นที่ต่อไป อธิบดี ปิ่นสักก์ กล่าว