วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568

กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทย ดูแลสุขภาพรับมือฝุ่น PM 2.5

 กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทย ดูแลสุขภาพรับมือฝุ่น PM 2.5

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ห่วง 5 กลุ่มอาการโรค ได้รับผลกระทบ  จากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ  โรคความดันโลหิตสูง และ โรคผิวหนัง แนะใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ เช่น มะขามป้อม ขมิ้นชัน รางจืด รวมถึงอาการผด ผื่น และอาการคันทางผิวหนัง แนะนำ สมุนไพรว่านหางจระเข้ บัวบก   โลชั่นพญายอ พลู และ ขี้ผึ้งพญายอ เพื่อใช้ทาบรรเทาอาการอักเสบทางผิวหนัง 

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า        ตามนโยบาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าดำเนินการแก้ปัญหา     หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ ถือเป็น  วาระสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขสืบเนื่องจากรัฐบาลมีข้อสั่งการให้มีการเตรียมการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วนในทุกกระทรวง  

ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงสนับสนุนการใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทยในการดูแลตัวเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ  โรคปอด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคผิวหนัง ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่น PM 2.5  มีอนุภาคขนาดเล็กมาก สามารถหลุดผ่านขนจมูกเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ การอักเสบในอวัยวะต่างๆ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคเรื้อรังดังกล่าวได้ ดังนั้น การนำสมุนไพร เช่น มะขามป้อม บรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการระคายคอ ขมิ้นชัน และชาชงรางจืด  ต้านการอักเสบของร่างกาย สำหรับปัญหาผิวหนังที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 เช่น ผด ผื่น และอาการคัน  ควรใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ เช่น ว่านหางจระเข้ บัวบก โลชั่นพญายอ ส่วนอาการผิวหนังอักเสบหรือผื่นลมพิษควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู หรือ ขี้ผึ้งพญายอ ใช้ทาบรรเทาอาการ ผื่น แพ้ คัน และการอักเสบของผิวหนัง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา หรือ ร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป 

ด้าน ดร.ภญ.ดวงแก้ว ปัญญาภู รองผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถึงสรรพคุณ และวิธีการใช้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ว่า รางจืด โดดเด่นเรื่อง       การแก้พิษ ล้างพิษ  ต้านการอักเสบของร่างกาย สามารถนำมาใช้ได้ 2 -3 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร         ข้อควรระวัง ผู้ป่วยที่รับประทานยาอื่นประจำ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วย ตับ ไต ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มะขามป้อม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง      ลดการอักเสบ การระคายเคือง บรรเทาอาการไอ รับประทานได้ทั้งแบบผลสด ผลแห้ง และชาชง ขมิ้นชัน       มีสารเคอร์คิวมิน สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ ระบบทางเดินหายใจ ต้านการอักเสบของร่างกาย            จึงรับประทานขมิ้นชันในช่วงที่มีมลพิษ  ทางอากาศ ได้ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 – 4 ครั้ง แต่ต้องไม่เกิน   9 กรัม / วัน และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี


นอกจากนี้ยังควร รับประทานอาหารให้ ครบห้าหมู่ เน้นผักและสมุนไพรที่มีประโยชน์   มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ผักผลไม้สีส้ม แดง ม่วงน้ำเงิน  เช่น กะหล่ำปลีม่วง ส้ม หรือรับประทานบล็อกเคอรี่ และผักใบเขียว เป็นต้น

ติดตามข่าวสาร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์  0 2149 5678

 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/dtam.moph และ ไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก line @DTAM

26 มกราคม 2568……………………………………………


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งคุมเข้มการตรวจสอบแหล่งที่มาเนื้อสัตว์ ต้องถูกกฎหมายและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

  อธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งคุมเข้มการตรวจสอบแหล่งที่มาเนื้อสัตว์ ต้องถูกกฎหมายและปลอดภัยต่อผู้บริโภค อธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งคุมเข้มการตรวจสอบแหล่ง...